ในยุคที่ความยั่งยืนเป็นเป้าหมายสำคัญของทุกภาคส่วน เทคโนโลยี GIS (Geographic Information System) ได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อน ESG (Environmental, Social, and Governance) ให้เป็นจริง ด้วยการประยุกต์ใช้ข้อมูลเชิงพื้นที่ GIS ช่วยสร้างโซลูชันที่ตอบโจทย์การพัฒนาอย่างยั่งยืนในหลากหลายมิติ ซึ่งครอบคลุมตั้งแต่การพัฒนาเมือง การจัดการภัยพิบัติ การส่งเสริมการเกษตร และการสนับสนุนพลังงานสะอาด มาทำความรู้จัก 4 โซลูชันที่ GIS มีบทบาทสำคัญต่อการสร้างอนาคตที่ยั่งยืนกัน

Geo City Data Platform: วางรากฐานเมืองที่ยั่งยืน

เมื่อประชากรโลกเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ความท้าทายในการบริหารจัดการเมืองก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน Geo City Data Platform ใช้เทคโนโลยี GIS ในการรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลเชิงพื้นที่ เพื่อสนับสนุนการวางแผนและพัฒนาเมืองอย่างยั่งยืน ตัวอย่างเช่น การกระจายตัวของประชากร การบริหารจัดการพลังงาน การใช้ทรัพยากรน้ำอย่างคุ้มค่า และการควบคุมมลพิษ เทคโนโลยีนี้ช่วยให้เมืองสามารถตัดสินใจบนพื้นฐานของข้อมูลที่แม่นยำ สร้างสมดุลระหว่างการเติบโตของเศรษฐกิจและการดูแลสิ่งแวดล้อม — สิ่งที่สอดคล้องกับหลักการ ESG อย่างแท้จริง

Disaster Management: รับมือภัยพิบัติอย่างมีประสิทธิภาพ

ภัยพิบัติธรรมชาติ เช่น น้ำท่วม แผ่นดินไหว และไฟป่า ก่อให้เกิดผลกระทบต่อทั้งชีวิตและเศรษฐกิจ GIS มีบทบาทสำคัญในการช่วยองค์กรและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามและจัดการข้อมูลภัยพิบัติแบบเรียลไทม์ ไม่ว่าจะเป็นการคาดการณ์แนวโน้ม การประเมินความเสี่ยง หรือการวางแผนรับมือ ด้วยความสามารถในการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงพื้นที่ GIS ช่วยลดผลกระทบต่อชุมชนและสิ่งแวดล้อม อีกทั้งยังช่วยลดการสูญเสียชีวิตและทรัพยากรอย่างมีนัยสำคัญ

Agriculture for Sustainability: การเกษตรเพื่อความยั่งยืน

ในภาคการเกษตร GIS ช่วยยกระดับประสิทธิภาพการผลิตอย่างยั่งยืน ด้วยการให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับสภาพดิน ความชื้น และแสงแดดที่เหมาะสมต่อการเพาะปลูก เกษตรกรสามารถวางแผนการใช้ทรัพยากร เช่น น้ำและปุ๋ย ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดการสูญเสียและผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ GIS ยังช่วยในการวางแผนเพาะปลูกตามฤดูกาลเพื่อให้เกิดผลผลิตสูงสุด ทำให้การเกษตรไม่เพียงแต่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม แต่ยังตอบโจทย์ความต้องการด้านเศรษฐกิจในระยะยาว

Renewable Energy: สนับสนุนพลังงานสะอาด

พลังงานทดแทนเป็นหัวใจสำคัญของอนาคตที่ยั่งยืน GIS มีบทบาทสำคัญในการช่วยวิเคราะห์และประเมินพื้นที่ที่เหมาะสมสำหรับการพัฒนาพลังงานสะอาด เช่น การติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์หรือกังหันลม ด้วยข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับความเข้มแสงอาทิตย์ ความเร็วลม และการเข้าถึงโครงข่ายพลังงาน GIS ช่วยให้การวางแผนพลังงานสะอาดเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ลดการพึ่งพาพลังงานฟอสซิล และส่งเสริมการใช้พลังงานที่ยั่งยืน

การพัฒนาเทคโนโลยี GIS ไม่ได้เป็นเพียงแค่เครื่องมือด้านข้อมูลเชิงพื้นที่ แต่ยังเป็นตัวเร่งสำคัญที่ช่วยให้เราสามารถบรรลุเป้าหมาย ESG ในทุกมิติ ทั้งการพัฒนาเมือง การจัดการภัยพิบัติ การเกษตร และพลังงานสะอาด ด้วยศักยภาพในการเชื่อมโยงข้อมูลและการวิเคราะห์ GIS ช่วยให้การตัดสินใจมีความแม่นยำและยั่งยืนมากขึ้น

ทั้งนี้ สิ่งสำคัญที่เรามุ่งเน้นคือการใช้ข้อมูลที่ครอบคลุม หลากหลาย และเชื่อถือได้ มาประกอบและบูรณาการเข้าด้วยกัน เพื่อให้การวิเคราะห์ การบริหารจัดการ หรือการคาดการณ์ล่วงหน้ามีความแม่นยำสูงสุด ข้อมูลที่ถูกต้องผสานกับเทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพสูงเป็นหัวใจสำคัญในการพัฒนาอย่างยั่งยืน ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ การรับมือกับภัยพิบัติ การสนับสนุนภาคเกษตรที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม หรือการพัฒนาพลังงานทดแทน ข้อมูลที่ถูกวิเคราะห์อย่างตรงจุด และแม่นยำช่วยให้องค์กรสามารถวางแผนล่วงหน้า จัดการทรัพยากรได้อย่างมีประสิทธิภาพ และลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคมได้อย่างแท้จริง ตอบโจทย์การพัฒนาอย่างยั่งยืนและสอดคล้องกับแนวทาง ESG อย่างเต็มรูปแบบ

ข้อมูลโดย :   บริษัท อีเอสอาร์ไอ (ประเทศไทย) จำกัด : Blog by MKT (03/01/2568)

Esri Thailand | เทคโนโลยี GIS กุญแจสู่อนาคตที่ยั่งยืนด้วย 4 โซลูชันอัจฉริยะ